ยินดีต้อนรับสู่เชียงของ

เชียงของเมืองเท่ น่าเที่ยว 1/3

เชียงของเมืองเท่ น่าเที่ยว 2/3



เชียงของเมืองเท่ น่าเที่ยว 3/3


เปรี้ยวปาก เช็คอิน | HIPSTER เชียงของ

ความเป็นมาเชียงของ

         ความเป็นมาของอำเภอเชียงของ เชียงของเคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยหิรัญนครเงินยาง(เชียงแสน) ชื่อ "ขรราช" ต่อมามีฐานะเป็นเมืองชื่อ "เมืองเชียงของ" ขึ้นอยู่ในความปกครองของ นันทบุรี (น่าน) โดยเจ้าครองนครน่านได้ตั้งให้เจ้าอริยวงค์ เป็นเจ้าเมืองเชียงของ เมื่อปี พ.ศ.1805 และปกครองเมืองเชียงของสืบต่อมาจนถึงเจ้าเมืองคนสุดท้าย คือ พญาจิตวงษ์วรยศรังษี ปี พ.ศ. 2453 (รศ.129) และให้มีฐานะเป็นอำเภอขึ้นกับจังหวัดเชียงรายมาจนถึงปัจจุบัน โดยแต่งตั้ง พญาอริยวงษ์ (น้อย จิตตางกูร) เป็นนายอำเภอคนแรกของอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ในปี พ.ศ. 2457 นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อำเภอเชียงของ มี นายอำเภอคนที่ 24 คือ นายศักดิ์ชัย จ.ผลิต ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ วันที่ 11 ธันวาคม 2544 จนถึงปัจจุบัน

คำขวัญอำเภอ

                                                     หลวงพ่อเพชรคู่เมือง   ลือเลื่องปลาบึกหาดไคร้ 
                                                     แหล่งผ้าทอน้ำไหล      ประตูใหม่อินโดจีน
ที่มา:http://www.amphoe.com/menu.php?mid=1&am=132&pv=12

ที่ตั้งและอาณาเขต

          อำเภอเชียงของมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 836.90 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 523,062.50 ไร่ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา โดยมีพื้นที่ราบลุ่มอยู่ตอนกลาง ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 ฟุต พื้นที่ป่าไม้ร้อยละ 61 ของพื้นที่ทั้งหมด หรือประมาณ 510 กิโลเมตร
             ทิศเหนือ ติดต่อกับแขวงบ่อแก้ว (ประเทศลาว)
             ทิศตะวันออก ติดต่อกับแขวงบ่อแก้ว (ประเทศลาว) และอำเภอเวียงแก่น
             ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเวียงแก่น อำเภอขุนตาล อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอเวียงเชียงรุ้ง
             ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอดอยหลวงและอำเภอเชียงแสน

ลักษณะภูมิอากาศ

         สภาพภูมิอากาศเป็นแบบมรสุมเขตร้อน มี 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว อากาศค่อนข้างเย็นสบายตลอดปี ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว ได้ชัดเจนและสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถข้ามไปฝั่งลาวได้ระหว่างเวลา 8.30-16.30 น. โดยติดต่อกรอกแบบฟอร์มขอผ่านแดนได้ที่ศูนย์อำนวนการรักษาความมั่นคงภายใน บริเวณที่ว่าการอำเภอเชียงของได้ทุกวัน แค่เพียงเตรียมรูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป และสำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด พร้อมเงินค่าธรรมเนียม 10 บาท นอกจากนี้ ในช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนเมษายนจะมีการจัดงานรื่นเริงและร้านค้าตามชายหาดริมฝั่งแม่น้ำโขงเป็นประจำทุกปี
ที่มา:http://www.lougrugschool.com/ประวัติอำเภอเชียงของ/

การปกครอง

     จำนวนประชากรรวม 26,588 คน ประกอบด้วยคนเชื้อชาติ ไทยพื้นเมือง ไทยลื้อ และชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ อาทิเช่น ม้ง ลาหู่ (มูเซอ) ขมุ อาข่า เป็นต้น มี 117 หมู่บ้าน ตำบล 7 ตำบล มีเทศบาล 2 แห่ง องค์การบริหารส่วนตำบล 6 แห่ง ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลักคือ เกษตรกรรม (ผลผลิตทางการเกษตร ข้าว ลำไย ส้มเขียวหวาน ข้าวโพด ขิง) ค้าขาย อาชีพรองคือ ประมงน้ำจืด รับจ้าง การค้าขายชายแดน
       จากการศึกษาความหมายและแนวคิดของภูมิปัญญาของชาวบ้านที่กล่าวมาแล้วข้างต้นพอสรุปได้ว่า ภูมิปัญญาไทย หมายถึง ความรู้ ความสามารถในการดำเนินชีวิตอยู่ในพื้นที่นั้น ๆ โดยใช้สติปัญญาสั่งสมความรู้อย่างแพร่หลาย ผสมผสานความกลมกลืนระหว่างศาสนา สภาพภูมิอากาศ สภาพแวดล้อมการประกอบอาชีพ และกระบวนการเหล่านี้มาจนหลายชั่วคนซึ่งจะเป็นวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์นั้น เกิดจากการเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์เป็นระยะเวลายาวนาน โดยอาศัยภูมิปัญญาที่มีอยู่มาใช้ในการตั้งถิ่นฐาน การประกอบอาชีพการปรับตัวและแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต จนเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของธรรมชาติและสังคม
ที่มา:http://www.lougrugschool.com/ประวัติอำเภอเชียงของ/

ศิลปวัฒนธรรม/ประเพณี


          
   เชียงของ เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญมาตั้งแต่อดีต ด้วยพื้นที่เชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านทั้งพม่า ลาว จีน เมื่อเปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลง คนพื้นที่จึงกำหนดแผนปรับเปลี่ยนเป็นเมือง 2 แบบ แบ่งเขตพัฒนาและรักษาพื้นที่วัฒนธรรม

พิธีบวงสรวงเจ้าพ่อปลาบึก
  ช่วงเวลา พิธีบวงสรวงจะกระทำก่อนการลงมือจับปลาบึกที่อำเภอเชียงของ จะเริ่มจับปลาบึกตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ของทุกปีซึ่งเป็นช่วงที่ปลาบึกกำลังผสมพันธุ์ และว่ายทวนน้ำขึ้นไปวางไข่ที่ทางต้นน้ำในประเทศจีน
ความสำคัญ
    พิธีบวงสรวงเจ้าพ่อปลาบึกเป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยเชื่อว่าปลาบึกเป็นปลาที่มีเทพคอยคุ้มครองอยู่ ถ้าไม่มีการบวงสรวงไหว้วอนขอจากเจ้าพ่อของเขา และไม่ปลุกขวัญแม่ย่านางเรือให้มีอานุภาพแกร่งกล้าผู้นั้นก็ยากที่จะจับปลาบึกได้สำเร็จ ดังนั้นบรรดาชาวประมงหรือพรานล่าปลาบึกบ้านหาดไคร้ ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย จึงได้มีพิธีบวงสรวงกันทุกปี จนกลายเป็นประเพณีพื้นบ้านของท้องถิ่น
พิธีกรรม
  พิธีบวงสรวงจะกระทำบริเวณชายหาดริมแม่น้ำโขง โดยมีศาลเพียงตาและมีรั้วรอบทั้งสี่ด้าน ที่มุมรั้วทั้ง๔ จะผูกต้นกล้วย ต้นอ้อยไว้ ส่วนบนศาลเพียงตาจะมีเครื่องเซ่นบวงสรวงประกอบด้วย ดอกไม้ ธูปเทียน สุราอาหารและผลไม้ สมัยก่อนเครื่องเซ่นสังเวยบวงสรวงเจ้าพ่อปลาบึกและแม่ย่านางเรือมีเพียง ดอกไม้ ธูปเทียนและไก่เป็นๆ โดยจับขาไก่สองข้างให้แน่นและฟาดลำตัวลงบนหัวเรือให้ตายทั้งเป็น เพื่อให้เลือดกระเซ็นรอบๆเรือและเครื่องมือที่ใช้ดักจับปลาบึก จากนั้นก็ขออาหารที่เหลือมาแบ่งกันกิน เป็นอันเสร็จพิธี
สาระ
  การทำพิธีบวงสรวงก่อนการจับปลาบึกเป็นการสร้างกำลังใจ ความเป็นสิริมงคล และโชคลาภแก่ชาวประมง ตลอดจนเป็นการรักษาไว้ซึ่งประเพณีที่เคยปฏิบัติสืบกันมาทุกปี
ที่มา:http://www.prapayneethai.com/พิธีบวงสรวงเจ้าพ่อปลาบึก

การแข่งเรือ

  
  ในสงกรานต์เชียงของเขามีการแข่งเรือพายในแม่น้ำโขง ต้องบอกก่อนว่าเชียงของอยู่ชายแดนลาวที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว มีเพียงแม่น้ำโขงกั้นไว้ ในวันสงกรานต์แต่ละตำบลจะส่งเรือพายของตนเองเข้ามาพายแข่งกัน เป็นประเพณีของชาวเชียงของ
ที่มา:https://brongmook.wordpress.com/author/brongmook/